สูตรสำเร็จงานประจำตามแนวทาง “ขงจื๊อ”

จำได้ว่าปีก่อน ใช้เวลาในการเดินทางและการขับรถบนท้องถนนเมืองกรุงไม่นานมาก เมื่อนโยบายรถคันแรกขับเคลื่อนออกมา รถนับหลายแสนคันที่อยู่บนท้องถนนอย่างหนาแน่น ทำให้เราทุกคนต้องบวกเวลาเพิ่มในการเดินทางอีกอย่างน้อย 1- 2 ชั่วโมง เท่ากับชาวเมืองกรุงต้องตื่นตัวและวางแผนการบริหารเวลาให้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมกับปัจจัยความเสี่ยง(Risk Factor)ในชีวิตที่ไม่อาจคาดการณ์ได้ในแต่ละวัน ไม่ใช่แค่ชีวิตบนรันเวย์ท้องถนนเท่านั้น ประชาชนตาดำๆยังต้องรองรับกับความผันแปรของเศรษฐกิจ ข้าวของเครื่องใช้ที่ราคาสูงขึ้น หยิบจับซื้อสินค้าและบริการประเภทใดเป็นต้องเสียภาษีไปเสียทุกสิ่ง ล่าสุดได้อ่านข้อความกระทู้ทางอินเตอร์เน็ตที่หลายคนนำมาวิจารณ์ถึงความเป็นจริง ความเสมอภาคและความมีเหตุผลคือมีนักวิชาการบางท่านเสนอการเก็บภาษีคนโสด คนที่ตั้งปณิธานครองชีวิตยาวนานด้วยคานทองต้องตื่นตัวเพื่อหาคู่หรืออยู่รองรับภาษีโสด หลายคนจึงมีคำถามว่านี่คือนโยบายเพิ่มประชากรหรือทำให้ประชากรรายได้ลดกันแน่  มาตรการค่าครองชีพวันละ 300 บาท ทำให้คุณภาพชีวิตแรงงานดีขึ้นแต่ไม่ต่างอะไรที่สินค้ายกระดับราคาสูงขึ้นตามไป คุณภาพชีวิตคนเมือง คนทำงานประจำ ไม่ต่างอะไรกับรอโอกาสฟ้าประทานโชค รัฐบาลหลายยุคหลายสมัยมีนโยบายแก้ปัญหาคอรัปชั่นแต่ไม่เคยแก้ได้หมด ไม่เช่นนั้นประเทศไทยเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ดูจากประติมากรรมเสาหินโฮปเวลที่ตั้งตระหง่าน ขวางสายตาคนกรุงเทพ เพราะอะไรน่ะหรือ? จิตสำนึกของคนใช่หรือไม่?ที่ไม่รู้จักพอ ไม่มีศีลธรรมจรรยาบรรณ ข่าวการจับอดีตนักการเมืองชื่อดังหลายคนที่คดโกงประเทศมีมากมายและหลายข่าวเป็นเพียงหมายจับ เจ้าของคดีความหนีข้ามประเทศไปเสวยสุขแดนไกลแบบหายเงียบเข้ากลีบเมฆ

สูตรสำเร็จงานประจำตามแนวทาง “ขงจื๊อ”

   เมื่อหลายสิ่งในสังคมไม่ได้เอื้อประโยชน์สุขแก่พนักงานประจำ แล้วจะใช้ชีวิตแบบมีความสุขอย่างไร ?ได้อ่านปรัชญาแนวคิดของขงจื๊อตอนหนึ่งว่า “ผู้ที่ปกครองด้วยคุณธรรมอาจเสมือนดาวเหนือซึ่งไม่เคยเคลื่อนย้ายไปไหน ขณะที่ดาวทุกดวงต้องหันหน้าเข้าหา” ถ้าเปรียบกับสำนวนไทยนั่นคือ “เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม” เราคงไม่สามารถรวยเป็นเศรษฐีขึ้นมาทันทีจากรายได้ประจำแต่เราสามารถทำงานอย่างมีความสุข ประสบความสำเร็จในหน้าที่ได้ ทุกสิ่งอย่างนั้นอยู่ที่ “ความคิดและจิตใจ”ที่เปี่ยมด้วยด้านบวกกับชีวิต เพราะหากเราจมอยู่กับปัญหาในสังคมที่เราไม่ได้ก่อแต่เป็นปัจจัยทางสังคมที่มากระตุ้นหรือรับรู้ทางข่าวสาร ดังนั้น ความคิดทำให้คนรู้สึก ความรู้สึกทำให้คนมีการกระทำ การกระทำให้คนประสบความสำเร็จ ความสำเร็จทำให้คนมีความสุขได้

ใน 24 ชั่วโมงของการใช้ชีวิต คุณหายใจเข้าออกไปกี่ครั้ง? โดยประมาณ คำตอบคือ 28,800 ครั้ง คุณได้ใช้เวลานั้นไปเพื่อความสุข ความสำเร็จใดบ้างหรือเพื่อหายใจทิ้งไปวันๆ เมื่อได้ตั้งคำถามกับตนเองแล้วให้เร่งสปีดเพื่อพัฒนาชีวิตใน 1 วัน ได้รับรอยยิ้ม  ความสุข ความสำเร็จ เพราะเมื่อไรก็ตามที่เราได้ทำงานที่ยากกว่าและสิ่งที่เหนือความคาดหมายได้สำเร็จ สารแห่งความสุขเอนโดรฟินจะหลั่งออกมาทำให้เรามีความสุข มีพลังพร้อมริเริ่มสร้างสิ่งดีๆให้ชีวิตต่อเนื่อง ตามสูตรของการพัฒนาศักยภาพชีวิต “555”  คือ สูตรที่หนึ่ง คือ ให้ยิ้มพร้อมกับประโยคคำพูดชื่นชม ชมเชย หรือขอบคุณตนเองที่สร้างรอยยิ้มทุกวันก่อนออกจากบ้าน วันละ 5 คำ เช่น ทำไมเราเท่จัง วันนี้เราสวยนะ ชุดนี้เธอสวยจัง เป็นต้น  สูตรที่สองคือ กิจกรรมใน 1 วัน นอกเหนือจากงานประจำ เราต้องสร้างสุขด้วยการพัฒนาการทำงานสมอง เพราะการทำงานของสมองคล้ายกับกล้ามเนื้อ เมื่อไรก็ตามที่ได้มีการฝึกอย่างสม่ำเสมอ กล้ามเนื้อจะแข็งแรง มีพลัง สมองควรได้รับการฝึกเช่นกันเพื่อให้เกิดปัญญาในการทำงาน นั่นคือ อ่านหนังสือทุกวันวันละอย่างน้อย 5 นาที อาจเป็นหนังสือแนวสร้างสรรค์ ข่าวสาร ปรัชญา หรือสารคดีที่สนใจ หมั่นออกกำลังกายอย่างน้อย 3 ครั้งต่อสัปดาห์ ครั้งละ 30 นาที บริโภคอาหารที่มีประโยชน์ 5 หมู่ ผัก ผลไม้ เนื้อสัตว์ เลือกรับประทานเมนูที่ไม่ซ้ำกันในแต่ละวันเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงสารก่อมะเร็งและสูตรที่สาม คือ นั่งสมาธิก่อนเข้านอน วันละ 5 นาที  เพื่อรวบรวมสติ สงบจิตใจ หลับอย่างมีความสุข พร้อมลุกขึ้นทำงานในวันใหม่ด้วยความสดชื่น ลองทำดูนะ!!เพื่อเพิ่มศักยภาพในตนเอง

ดังนั้น งานประจำทำให้เราประสบความสำเร็จ มีความสุข เป็นคนเก่ง คนดี มีคุณภาพได้ และพร้อมจะเติบโตในการงานหน้าที่ได้อย่างดีเยี่ยม สิ่งสำคัญที่สุดอยู่ที่เราจะเลือกนำศักยภาพในตนเองออกมาให้ได้อย่างถูกต้องและนำมาใช้ได้อย่างเต็มที่สุดความสามารถแล้วหรือยัง ?

โดย โค้ชวีย์รฎา กวิณรวีบริรักษ์

กลับไปหน้าหลัก

ใส่ความเห็น